การเลือกหลอดไฟสำหรับใช้งานภายในบ้านนั้น นอกเหนือจากเรื่องของความสว่างและอัตราการประหยัดไฟแล้ว การเลือกโทนสีให้เหมาะสมกับวัตถุประสงค์ในการใช้งานก็เป็นสิ่งสำคัญ เนื่องจากภายในแต่ละห้อง เช่น ห้องรับแขก ห้องน้ำ ห้องทำงาน หรือห้องนอน ก็มีข้อจำกัดหรือความต้องการที่แตกต่างกันออกไป
ในบทความนี้จะพามาทำความเข้าใจว่า Color Temperature คืออะไร อุณหภูมิสีหลอดไฟที่นิยมใช้งานในปัจจุบันมีอะไรบ้าง รวมถึงเทคนิคการเลือกอุณหภูมิสีของแสงที่เหมาะสมกับการใช้งานในพื้นที่ต่าง ๆ
Color Temperature หรือ อุณหภูมิสี คืออะไร
อุณหภูมิสี (Color Temperature) คือค่าที่ใช้บอกถึงสีของแสง โดยเปรียบเทียบกับสีของวัตถุสีดำที่ถูกทำให้ร้อนขึ้นจนเปล่งแสงออกมา มีหน่วยเป็นเคลวิน (K) ตั้งแต่ 1,000 – 10,000 K ยิ่งค่าเคลวินสูง สีของแสงก็จะยิ่งเย็นลงไปทางสีฟ้า ในขณะที่ค่าเคลวินต่ำจะให้แสงสีอบอุ่น เช่น สีเหลืองหรือสีส้ม เป็นต้น
อุณหภูมิสี (Color Temperature) ของแสงแบบต่าง ๆ
โดย Color Temperature ของหลอดไฟที่เราสามารถพบเจอได้บ่อย สามารถแบ่งออกเป็น 4 กลุ่มใหญ่ ๆ ได้แก่
แสง Warm White
วอร์มไวท์ เป็นแสงในโทนสีขาวอมเหลืองหรือส้ม มีอุณหภูมิสีอยู่ที่ 2000 – 3000K เป็นอุณหภูมิสีที่ให้ความรู้สึกอบอุ่น ผ่อนคลาย เหมาะกับการใช้ในพื้นที่พักผ่อน เช่น ห้องนอน ห้องนั่งเล่น ห้องทานข้าว โรงแรม สปา แต่ไฟ Warm White มีข้อจำกัดคือจะทำให้สีวัตถุเพี้ยนเล็กน้อย จึงไม่เหมาะสำหรับพื้นที่ที่ต้องการความแม่นยำของสี เช่น ห้องทำงานหรือห้องวาดรูป
แสง Neutral White
Neutral White หรือ แสงขาวนวล เป็นแสงที่มีอุณหภูมิสีอยู่ที่ 4,000K มีลักษณะเด่นคือมีสีขาวอมเหลือง ทำให้สามารถมองเห็นได้ชัดเจนแต่ไม่สว่างจนแสบตาเกินไป นิยมใช้งานในหลากหลายวัตถุประสงค์ อาทิ ห้องน้ำ ห้องนอน ห้องครัว ห้องนั่งเล่น ห้องทำงาน หรือพื้นที่ใดก็ตามที่ต้องการแสงใกล้เคียงธรรมชาติ
แสง Cool White
Cool White หรือที่นิยมเรียกว่า สีขาวเย็นตา เป็นแสงที่มีอุณหภูมิสีระหว่าง 5000 – 6500K ให้โทนสีขาวสนิท ไม่เจือสีเหลืองหรือสีฟ้า ให้ความรู้สึกสดใส ช่วยให้มองเห็นวัตถุได้อย่างชัดเจน เหมาะกับการใช้งานในพื้นที่ที่เน้นการมองเห็น เช่น ห้องทำงาน ห้องครัว โรงพยาบาล ที่ทำงาน ห้างสรรพสินค้า เป็นต้น
แสง Daylight
แสงเดย์ไลท์ เป็นแสงที่มีลักษณะใกล้เคียงกับแสงธรรมชาติในเวลากลางวันมากที่สุด มีอุณหภูมิสีระหว่าง 7000 – 7500K มีโทนสีขาวอมฟ้า ให้ความรู้สึกกระปรี้กระเปร่าและช่วยกระตุ้นสมอง อีกทั้งยังมีความแม่นยำของสีสูง เหมาะกับการใช้งานในสถานที่ทำงาน เช่น ออฟฟิศ ห้องสมุด โรงเรียน โรงพยาบาล ฯลฯ
การเลือกอุณหภูมิสีหลอดไฟ ให้เหมาะกับการใช้งาน
การเลือกหลอดไฟให้เหมาะสมกับการใช้งาน นอกจากเรื่องของความสว่างแล้ว อุณหภูมิสีก็เป็นสิ่งจำเป็นที่ต้องให้ความสำคัญ โดยพิจารณาจากรายละเอียดดังต่อไปนี้
ดูว่าเป็นห้องสำหรับกิจกรรมอะไร
กิจกรรมต่าง ๆ จะมีความต้องการใช้แสงสว่างที่ต่างกันออกไป เช่น หากใช้ในการทำงาน ก็ควรใช้แสงสีโทนเย็นที่ให้ความสว่างมากพอ เพื่อให้ทำงานได้อย่างถูกต้อง ไม่ผิดพลาด และมีบรรยากาศที่ชวนให้ตื่นตัวตลอดเวลา ไม่ง่วงนอน หรือหากเป็นพื้นที่พักผ่อน แสงสีโทนอุ่นก็จะช่วยให้เรารู้สึกผ่อนคลายและหลับสบายมากขึ้น เป็นต้น
พิจารณาขนาดห้อง
หากเป็นห้องที่มีขนาดเล็ก และไม่ได้ต้องการแสงมากนัก การใช้หลอดไฟที่มีอุณหภูมิสีสูงเกินไปอาจทำให้รู้สึกอึดอัดและไม่สบายตาได้ หรือหากเป็นห้องโถงขนาดใหญ่ การใช้ไฟโทนสีที่สลัวเกินไปก็ส่งผลกับการมองเห็นได้เช่นกัน ดังนั้น ควรประเมินขนาดของห้องหรือพื้นที่ที่ใช้ว่าต้องการแสงสว่างมาก – น้อยเพียงใด
เช็กสีผนังและเฟอร์นิเจอร์
ถึงแม้ว่าสีผนังและเฟอร์นิเจอร์อาจไม่ได้ส่งผลกับการใช้งานหลอดไฟมากนัก แต่การเลือก Color Temperature ของหลอดไฟให้เข้ากับโทนสีโดยรวมของห้อง จะช่วยสร้างบรรยากาศที่กลมกลืน ดูสวยงาม ลงตัว และไม่ดูขัดแย้งจนเกินไป
ตัวอย่าง อุณหภูมิสี (Color Temperature) ของแสงตามห้องต่าง ๆ
ห้องนอน
ห้องนอนเป็นพื้นที่สำหรับพักผ่อน จึงควรมีบรรยากาศที่อบอุ่น และใช้อุณหภูมิสีที่สบายตา ไม่รบกวนการนอนหลับจนเกินไป จึงนิยมใช้ Color Temperature โทน Warm White หรือ Neutral Light ที่มีโทนสีเหลือง ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย และควรหลีกเลี่ยงการใช้อุณหภูมิสี Daylight เพราะมีแสงสีฟ้าซึ่งกระตุ้นสมองให้ตื่นตัวตลอดเวลาและอาจทำให้นอนหลับได้ยากขึ้น
ห้องนั่งเล่น
ห้องนั่งเล่นเป็นพื้นที่ผ่อนคลายสำหรับคนในครอบครัว อีกทั้งยังใช้ในการรับแขก หรือทำกิจกรรมอื่น ๆ ร่วมกัน Color Temperature ที่นิยมใช้งานจึงมักเป็นโทนสี Warm White, Neutral White หรือ Cool White ขึ้นอยู่กับบรรยากาศที่ต้องการ แต่ไม่นิยมใช้ไฟ Daylight เนื่องจากมีความสว่างเกินไปและให้โทนสีขาวเย็นจัด ซึ่งอาจทำให้รู้สึกตึงเครียดและไม่ผ่อนคลาย
ห้องทำงาน
ห้องทำงานควรมีแสงสว่างที่แสดงสีของวัตถุได้อย่างแม่นยำ เพื่อให้ทำงานได้อย่างถูกต้อง ลดข้อผิดพลาด อีกทั้งยังควรมีบรรยากาศที่กระตุ้นให้ตื่นตัว พร้อมทำงานตลอดเวลา Color Temperature ที่เหมาะกับห้องทำงานควรเป็นโทนสีที่มีความเพี้ยนสีน้อย ได้แก่ Neutral White, Cool White และ Daylight
ห้องครัว
การทำอาหารจำเป็นต้องใช้ความแม่นยำสูง ทั้งการเลือกเครื่องปรุง การหั่นหรือเตรียมวัตถุดิบ หรือการปรุงอาหารให้สุกอย่างพอดี ภายในห้องครัวจึงควรใช้อุณหภูมิสีหลอดไฟแบบ Daylight ที่ให้แสงสว่างใกล้เคียงกับแสงธรรมชาติที่สุด ช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการทำอาหารและช่วยให้ปรุงอาหารได้ถูกต้อง ไม่ผิดพลาด
ห้องน้ำ
การเลือกใช้อุณหภูมิสีของแสงภายในห้องน้ำนั้นขึ้นอยู่กับบรรยากาศที่ผู้ใช้งานต้องการ หากต้องการความสะอาดตา ให้ห้องน้ำดูโล่ง โปร่งสบาย ควรใช้ไฟ Cool White หรือ Daylight ที่ให้ความสว่างได้ดี หรือหากต้องการบรรยากาศหรู ผ่อนคลาย สำหรับนอนแช่ตัวสบาย ๆ ก็อาจเลือกติดโคมไฟแบบ Warm White เพื่อเปิดสร้างบรรยากาศได้เช่นกัน
Color Temperature ที่เหมาะสม จะช่วยให้บรรยากาศภายในห้องมีความสวยงาม ลงตัว และไม่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพและสายตาของผู้ใช้งาน ซึ่งนอกจากการใช้งานภายในอาคารแล้ว อุณหภูมิสียังสามารถประยุกต์ใช้สำหรับงานกลางแจ้ง เช่น ไฟในสวน หรือไฟทางเดินได้เช่นกัน
นอกจากนี้ การเลือกหลอดไฟ รวมถึงอุปกรณ์เสริมอย่างโคมไฟ เช่น โคมไฟดาวน์ไลท์ โคมไฟสปอตไลต์ โคมไฟถนน ที่ได้มาตรฐานจากผู้จัดจำหน่ายที่มีประสบการณ์ด้านการติดตั้งและให้บริการ ก็จะช่วยให้คุณได้ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ มาตรฐาน และอายุการใช้งานที่ยาวนาน คุ้มค่ากับการลงทุน
Winner Light ผู้ผลิตและจัดจำหน่าย พร้อมบริการติดตั้งเสาไฟถนน โคมไฟถนน เสาไฟถนนโซลาร์เซลล์ ที่ครองใจลูกค้ามาอย่างยาวนานกว่า 15 ปี ด้วยความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ ที่ตอบโจทย์ความต้องการด้านแสงสว่างได้อย่างครอบคลุม
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
เบอร์โทรศัพท์ : 02-415-7576-7, 081-880-6616
Facebook: www.facebook.com/bangbonstation