ฟุตบอลถือเป็นหนึ่งในกีฬาที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายทั่วโลก อีกทั้งยังมีทัวร์นาเมนต์ต่าง ๆ ที่จัดขึ้นอย่างต่อเนื่องเพื่อเป็นการเปิดโอกาสให้ทีมฟุตบอลทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่ได้มาร่วมประลองฝีมือสู่สายตาเหล่าแฟนบอลที่ติดตามเชียร์ ซึ่งโดยส่วนใหญ่ การแข่งขันมักจะจัดในเวลากลางคืนเพื่อความปลอดภัยของนักกีฬา เนื่องจากการเล่นในช่วงกลางวันอาจทำให้ร่างกายต้องเผชิญกับแสงแดดที่ร้อนจัดและเสี่ยงต่อการเจ็บป่วย นอกจากนี้ยังช่วยอำนวยความสะดวกแก่ผู้ชมซึ่งมักจะมีเวลาว่างหลังเลิกงาน ดังนั้น การติดตั้งไฟส่องสว่างในสนามฟุตบอลจึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง โดยต้องมีความสว่างที่เหมาะสมและได้มาตรฐาน เพื่อให้การแข่งขันดำเนินไปอย่างราบรื่น
ในบทความนี้เราจะพามาเจาะลึกเกี่ยวกับการติดตั้งไฟสนามฟุตบอล มาตรฐานตามระเบียบของ FIFA Lighting Guide ที่ผู้ให้บริการสนามฟุตบอลขนาดใหญ่ควรทราบ และปัจจัยอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อความปลอดภัยและประสิทธิภาพที่ดีของนักแข่ง
ไฟสนามฟุตบอล มาตรฐานตาม FIFA Lighting Guide
FIFA หรือ สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ คือหน่วยงานที่ทำหน้าที่ในการกำหนดมาตรฐานการแข่งขันฟุตบอลในระดับสากล ไม่ว่าจะเป็น กฎ กติกา ระเบียบของนักกีฬา หรือแม้แต่ลักษณะของสนามแข่งขัน เพื่อให้การแข่งขันทุกครั้งเป็นไปตามมาตรฐานเดียวกัน โดยทาง FIFA ได้กำหนดมาตรฐานแสงสว่างสนามฟุตบอลสำหรับการแข่งขันในระดับต่าง ๆ ดังนี้
ไฟสนามฟุตบอลมาตรฐาน FIFA Lighting Standard A
มาตรฐานแสงสว่างสนามฟุตบอล Standard A คือมาตรฐานสำหรับทัวร์นาเมนต์ใหญ่ในระดับโลกอย่าง FIFA World Cup™ หรือที่เรารู้จักกันในชื่อของฟุตบอลโลก ในทุกรอบการแข่งขัน และ FIFA Women’s World Cup™ หรือฟุตบอลโลกหญิง ในรอบชิงชนะเลิศ รอบรองชนะเลิศและแมตช์เปิดสนาม และเนื่องจากเป็นแมตช์สำคัญที่ทั่วโลกจับตามอง สนามจึงต้องมีสภาพที่เอื้อต่อการเล่นกีฬาสูงสุด โดยเฉพาะเรื่องความสว่างที่ต้องเพียงพอและสีของแสงที่ต้องใกล้เคียงกับแสงธรรมชาติมากที่สุด เพื่อให้ผู้เล่นสามารถแข่งขันได้อย่างมีประสิทธิภาพ
Horizontal Illuminance (ค่าความสว่างในแนวระนาบ) | Uniformity (ความสม่ำเสมอของแสง) | Glare Rating (ค่าแสงสะท้อน) | CRI (ดัชนีวัดค่าความถูกต้องของสี) | CCT (อุณหภูมิสี) |
Minimum > 1,500 lux Average > 2,500 lux | > 0.70 | < 50 | ≥ 80Ra | 5,000 – 6,200K (Cool White / Daylight) |
ไฟสนามฟุตบอลมาตรฐาน FIFA Lighting Standard B
ไฟสนามฟุตบอล มาตรฐาน Standard B เป็นมาตรฐานที่ใช้สำหรับทัวร์นาเมนต์ที่มีความสำคัญรองลงมา อย่างการแข่งขันฟุตบอลในกีฬาโอลิมปิกทั้งประเภทชายและหญิง, FIFA Women’s World Cup™ รอบแบ่งกลุ่ม รอบ 16 ทีมสุดท้าย และรอบก่อนรองชนะเลิศ FIFA Club World Cup™ และ FIFA U-20 World Cup™ และเนื่องจากการแข่งขันมักใช้สนามที่เล็กกว่าสนามสำหรับจัดแข่งฟุตบอลโลก จึงใช้ค่าความสว่างที่น้อยกว่าสนามประเภท Standard A เล็กน้อย เพื่อความสบายตาต่อผู้เล่นและผู้ชมขณะชมการแข่งขัน
Horizontal Illuminance (ค่าความสว่างในแนวระนาบ) | Uniformity (ความสม่ำเสมอของแสง) | Glare Rating (ค่าแสงสะท้อน) | CRI (ดัชนีวัดค่าความถูกต้องของสี) | CCT (อุณหภูมิสี) |
Minimum > 1,200 lux Average > 2,000 lux | > 0.70 | < 50 | ≥ 80Ra | 5,000 – 6,200K (Cool White / Daylight) |
ไฟสนามฟุตบอลมาตรฐาน FIFA Lighting Standard C
ไฟสนามฟุตบอล FIFA Lighting Standard C เป็นการออกแบบไฟสนามฟุตบอลที่เหมาะสำหรับการจัดแข่งขันในรอบชิงชนะเลิศและแมตช์เปิดสนามสำหรับการแข่งขันฟุตบอลระดับเยาวชนอย่าง FIFA U-20 Women’s World Cup™ และ FIFA U-17 World Cup™ ซึ่งจัดแข่งในสนามขนาดเล็ก และมีกฎกติกาในการแข่งขันที่ไม่ซับซ้อนเท่ากับทัวร์นาเมนต์ขนาดใหญ่ จึงสามารถใช้แสงสว่างที่มีอุณหภูมิสีอยู่ในโทน Neutral White ซึ่งให้ความรู้สึกสบายตาแก่ผู้เล่นได้
Horizontal Illuminance (ค่าความสว่างในแนวระนาบ) | Uniformity (ความสม่ำเสมอของแสง) | Glare Rating (ค่าแสงสะท้อน) | CRI (ดัชนีวัดค่าความถูกต้องของสี) | CCT (อุณหภูมิสี) |
Minimum > 800 lux Average > 1,250 lux | > 0.60 | < 50 | ≥ 70Ra | 4,200 – 6,200K (Neutral White / Cool White / Daylight) |
ไฟสนามฟุตบอลมาตรฐาน FIFA Lighting Standard D
FIFA Lighting Standard D เป็นมาตรฐานแสงสว่างสนามฟุตบอลสำหรับจัดแข่งขันในรอบคัดเลือกของ FIFA U-20 Women’s World Cup™ และ FIFA U-17 World Cup™ มีลักษณะการจัดไฟที่ใกล้เคียงกับมาตรฐาน Standard C แต่มีการกำหนดค่าความสว่างน้อยกว่าเล็กน้อย ให้เหมาะสมกับสนามที่มีขนาดเล็ก
Horizontal Illuminance (ค่าความสว่างในแนวระนาบ) | Uniformity (ความสม่ำเสมอของแสง) | Glare Rating (ค่าแสงสะท้อน) | CRI (ดัชนีวัดค่าความถูกต้องของสี) | CCT (อุณหภูมิสี) |
Average > 1,000 lux | > 0.60 | < 50 | ≥ 70Ra | 4,200 – 6,200K (Neutral White / Cool White / Daylight) |
ปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับมาตรฐานแสงสว่างสนามฟุตบอล
การเลือกติดตั้งไฟสนามฟุตบอล มาตรฐานตามระเบียบสากล นอกจากยี่ห้อและลักษณะโคมไฟที่จะใช้งานแล้ว ยังมีเรื่องของค่าทางแสงสว่างต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ได้สนามฟุตบอลที่มีแสงสว่างคุณภาพสูง เหมาะสำหรับการแข่งขันและฝึกซ้อมอย่างมีประสิทธิภาพ โดยปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับมาตรฐานแสงสว่างสนามฟุตบอลที่ควรรู้ ได้แก่
1. ความสว่างเฉลี่ย (lux)
Lux หรือ ค่าแสงสว่าง ใช้ในการวัดความสว่างที่ตกกระทบบนพื้นผิวหนึ่งหน่วยพื้นที่ โดยมีหน่วยเป็นลูเมนต่อตารางเมตร ซึ่งค่า Lux ที่สูงขึ้นจะบ่งบอกถึงความสว่างที่มากขึ้น และยิ่งพื้นที่มีขนาดใหญ่ขึ้น ก็จะต้องใช้แหล่งกำเนิดแสงที่มีกำลังสูงขึ้นเพื่อให้ได้ค่า Lux ที่เพียงพอต่อการใช้งาน การเลือกระบบไฟฟ้าส่องสว่างสนามฟุตบอล จึงควรให้ความสำคัญกับขนาดพื้นที่และลักษณะการใช้งาน เพื่อให้ผู้ชมและนักกีฬาสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน
2. ความสม่ำเสมอของแสง
ความสม่ำเสมอของแสง (Uniformity) เป็นค่าที่ใช้ระบุว่า แสงที่ตกกระทบบนพื้นที่นั้นมีความสม่ำเสมอและมีจุดอับหรือเงามืดมาก-น้อยเพียงใด โดยพิจารณาทั้งความสม่ำเสมอในแนวนอน (บนพื้นสนาม) และแนวตั้ง (ตามความสูง) ยิ่งความสม่ำเสมอมาก นักกีฬาก็จะสามารถมองเห็นตำแหน่งต่าง ๆ ในสนามได้ชัดเจนและแม่นยำขึ้น โดยการออกแบบไฟสนามฟุตบอล มาตรฐานส่วนใหญ่จะกำหนดค่า Uniformity อยู่ที่ 0.6 ขึ้นไป
3. อุณหภูมิสีของแสง
ไฟสำหรับสนามกีฬาส่วนมากจะเลือกใช้อุณหภูมิสีที่ออกไปทางโทนขาว-ฟ้า ได้แก่ Cool White และ Daylight (5,000 – 6,200K) และจะเลือกโคมไฟที่มีค่า CRI ไม่ต่ำกว่า 70% เพื่อให้ได้แสงที่มีสีใกล้เคียงกับธรรมชาติมากที่สุด ไม่ผิดเพี้ยน ช่วยให้การถ่ายทอดสดได้ภาพที่สวยงาม คมชัด อีกทั้งยังช่วยให้กรรมการสามารถตัดสินผลได้อย่างแม่นยำยิ่งขึ้นเพราะสามารถมองเห็นเส้นบนสนามและสีของลูกฟุตบอลได้ชัดเจน
4. การป้องกันแสงสะท้อน
การออกแบบระบบไฟฟ้าส่องสว่างสนามฟุตบอลจำเป็นต้องคำนึงถึงมุมกระจายแสงที่เหมาะสมและการจัดทิศทางของแสง เพื่อลดปริมาณแสงสะท้อน (Glare) ที่อาจส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพการมองเห็นของนักกีฬาและประสบการณ์การชมของผู้ชม รวมถึงอาจสร้างมลพิษทางแสงไปสู่พื้นที่ภายนอก ซึ่งค่าแสงสะท้อนภายในสนามฟุตบอลที่อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสมต้องมีค่าไม่เกิน 50
ผลกระทบของระบบไฟฟ้าส่องสว่างสนามฟุตบอลที่มีต่อผู้เล่นและผู้ชม
หากออกแบบไฟสนามฟุตบอลอย่างไม่ถูกต้อง เช่น เลือกใช้อุณหภูมิสีไฟผิด หรือใช้โคมไฟที่ให้แสงสว่างได้น้อยเกินไป ย่อมส่งผลกระทบต่อทั้งในส่วนของนักกีฬาและผู้ชม ไม่ว่าจะเป็น
ผลกระทบต่อประสิทธิภาพการเล่น
การแข่งขันฟุตบอลจำเป็นต้องใช้ทักษะในการเคลื่อนไหวและการสังเกตอยู่เสมอ เพื่อให้สามารถส่งบอลและทำประตูได้ หากมีแสงสว่างในสนามน้อยเกินไป อาจทำให้นักกีฬากะระยะในการเตะลูกฟุตบอลไม่ถูก เพราะสนามฟุตบอลมีความกว้างค่อนข้างมาก อีกทั้งการเลือกใช้อุณหภูมิสีโทน Warm Light ที่มีสีเหลืองและค่อนข้างหม่น จะทำให้ผู้ตัดสินและผู้เล่นเกิดความลำบากในการสังเกตเมื่อเกิดการผิดกติกาขึ้น และทำให้เกิดความไม่ยุติธรรมในการตัดสินได้
ผลกระทบต่อประสบการณ์ของผู้ชม
แสงสว่างที่มีความสว่างเหมาะสมจะช่วยเพิ่มอรรถรสในการรับชมเป็นอย่างดี เพราะผู้ชมจะสามารถเห็นรายละเอียดของเกมได้อย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็น การเคลื่อนไหวของนักกีฬา การส่งบอล และจังหวะสำคัญต่างๆ ช่วยสร้างความตื่นเต้น เร้าใจ อีกทั้งการถ่ายทอดสดหรือการบันทึกภาพและวิดีโอจะออกมาคมชัดและสวยงามเมื่อมีแสงสว่างเพียงพอ แต่หากจัดแสงไฟสนามบอลไม่เหมาะสม ไม่ว่าจะสว่างไปหรือมืดไป ก็จะส่งผลให้ผู้ชมรู้สึกไม่สบายตาและเสียอรรถรสได้
การติดตั้งไฟสนามบอล มาตรฐานตามที่กำหนดโดย FIFA หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะทำให้ทั้งผู้เล่นและผู้รับชมสามารถใช้งานสนามแข่งได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ และช่วยเพิ่มอรรถรสในการรับชมได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ การมีระบบไฟสว่างที่ได้มาตรฐานยังช่วยยืดอายุการใช้งานของโคมไฟและอุปกรณ์ไฟฟ้าอื่น ๆ อีกด้วย ทำให้ประหยัดค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาในระยะยาว
หากคุณคือเจ้าของสนามฟุตบอลหรือโครงการต่าง ๆ ที่กำลังวางแผนติดตั้งระบบไฟฟ้าส่องสว่างสนามฟุตบอลที่ถูกต้องตามมาตรฐาน ปลอดภัย มีอายุใช้งานยาวนาน อย่าลืมปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านการผลิตและติดตั้งระบบไฟฟ้าสำหรับอุตสาหกรรมต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น เสาไฟ โคมไฟถนน ระบบโซลาร์เซลล์ ทั้งภายในและภายนอกอาคาร เพื่อให้คุณมั่นใจว่าจะได้เทคโนโลยีไฟส่องสว่างที่มีคุณภาพและคุ้มค่ากับการลงทุน
Winner Light ผู้ผลิตและจัดจำหน่าย พร้อมบริการติดตั้งเสาไฟถนน โคมไฟถนน เสาไฟถนนโซลาร์เซลล์ ที่ครองใจลูกค้ามาอย่างยาวนานกว่า 15 ปี ด้วยความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ ที่ตอบโจทย์ความต้องการด้านแสงสว่างได้อย่างครอบคลุม
ต้องการระบบไฟฟ้าส่องสว่างสนามฟุตบอล ติดต่อได้ที่
เบอร์โทรศัพท์ : 02-415-7576-7, 081-880-6616
Facebook: www.facebook.com/bangbonstation