ในปัจจุบันที่ผู้คนต้องเดินทางเป็นประจำ ความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนนถือเป็นสิ่งสำคัญอันดับต้น ๆ โดยเฉพาะการขับขี่ในเวลากลางคืนที่มีทัศนวิสัยจำกัด การติดตั้งอุปกรณ์ให้แสงสว่างตามมาตรฐานไฟถนนกรมทางหลวงจึงเป็นเรื่องจำเป็นที่องค์กรและหน่วยงานต่าง ๆ ต้องปฏิบัติตามเพื่อเพิ่มความปลอดภัยของประชาชน
บทความนี้เราจะมาแนะนำกฎเกณฑ์และมาตรฐานไฟฟ้าแสงสว่างกรมทางหลวงที่ผู้ใช้งานควรรู้ เพื่อเป็นแนวทางสำหรับองค์กรและหน่วยงานในการติดตั้งอุปกรณ์ให้แสงสว่างที่ถูกต้องตามกฎหมาย
ความสำคัญของมาตรฐานไฟถนนกรมทางหลวง
มาตรฐานไฟถนนกรมทางหลวงเป็นมาตรฐานที่ระบุเอาไว้ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อการสร้างทัศนวิสัยที่เหมาะสมสำหรับการขับขี่ในสภาพการจราจรบนท้องถนนแต่ละประเภท ลดการเกิดอุบัติเหตุ และสร้างความปลอดภัยในระยะยาว โดยองค์ประกอบสำคัญหลัก ๆ ที่มาตรฐานไฟฟ้าแสงสว่างกรมทางหลวงกำหนดไว้ ได้แก่ ความสว่าง, รูปแบบการกระจายแสง, ตำแหน่งในการติดตั้ง และประเภทของหลอดไฟที่ใช้งาน
การติดตั้งเสาไฟตามมาตรฐานความสว่างไฟถนน กรมทางหลวง
ตามแบบมาตรฐานเสาไฟฟ้ากรมทางหลวง สามารถแบ่งรูปแบบการติดตั้งเสาและโคมไฟถนนออกเป็น 2 แบบ ดังนี้
1. การติดตั้งไฟแบบต่อเนื่อง (Continuous Lighting)
การติดตั้งไฟแบบต่อเนื่อง (Continuous Lighting) เป็นการติดตั้งโคมไฟเหนือระดับพื้นถนนเรียงต่อกันเป็นแนวไปตามเส้นทาง โดยเหตุอันควรในการพิจารณาการติดตั้งโคมไฟแบบต่อเนื่องมีดังนี้
- มีปริมาณรถสัญจรเฉลี่ย 25,000 คัน/วันขึ้นไป
- พื้นที่บริเวณใกล้เคียงมีแสงสว่างจ้ามากซึ่งรบกวนทัศนวิสัยระหว่างขับขี่
- มีปริมาณคนเดินเท้าสูงในช่วงเวลากลางคืน
- มีความสับสนของการจราจร เช่น ทางแยก หรือการเปลี่ยนแปลงช่องจราจร
- มีสถิติอุบัติเหตุในเวลากลางคืนมากกว่า 2 เท่าของเวลากลางวัน
2. การติดตั้งไฟเฉพาะบริเวณ (Specific Lighting)
การติดตั้งไฟเฉพาะบริเวณ (Specific Lighting) เป็นการติดตั้งไฟถนนในจุดเฉพาะซึ่งมีความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุสูง เช่น ทางแยก สะพาน จุดเลี้ยวโค้ง หรือทางม้าลาย โดยเหตุอันควรในการพิจารณาการติดตั้งโคมไฟเฉพาะบริเวณมีดังนี้
- ทางแยกที่มีการติดตั้งไฟสัญญาณจราจร
- ทางหลวงที่มีการเปลี่ยนแปลงกายภาพในทันที
- ทางโค้งรัศมีแคบ หรือมีความลาดชันมาก
- สะพานที่โค้งและทางแยกต่างระดับ
- ทางข้ามหรือทางม้าลายที่มีไฟสัญญาณจราจร หรือที่มีจำนวนคนเดินข้ามสูง
- ในบริเวณชุมชนที่มีสถิติอุบัติเหตุในเวลากลางคืนมากกว่า 2 เท่าของเวลากลางวัน
การเลือกใช้ไฟ ตามมาตรฐานมาตรฐานไฟถนนกรมทางหลวง
การเลือกใช้ไฟฟ้าแสงสว่างจะพิจารณาใน 2 ลักษณะ คือ
- คุณสมบัติการกระจายแสง (Light Distribution)
โคมไฟฟ้าแสงสว่างจะมีลักษณะการกระจายแสงแบ่งออกเป็น 3 รูปแบบ คือ
- Cut-Off
โคมไฟที่มีการควบคุมแนวส่องของลำแสงอย่างสมบูรณ์ โดยลำแสงจะไม่กระจายออกเหนือโคมไฟ ทำให้แสงส่องไปยังพื้นที่เป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพและลดการเกิดแสงจ้าที่รบกวนสายตาผู้ขับขี่ เป็นรูปแบบโคมไฟที่มีประสิทธิภาพดีที่สุดตามมาตรฐานความสว่างไฟถนน เหมาะกับการติดตั้งบนทางหลวงสายหลักที่การจราจรใช้ความเร็วสูง
- Semi Cut-Off
โคมไฟที่มีการควบคุมแนวส่องของลำแสงกึ่งสมบูรณ์ โดยแสงจะกระจายออกด้านบนเล็กน้อย ทำให้ส่องสว่างพื้นที่ได้มากขึ้น แต่อาจทำให้เกิดแสงจ้ารบกวนสายตาได้หากติดตั้งไม่เหมาะสม เหมาะกับการติดตั้งบริเวณทางหลวงซึ่งมีพื้นที่สองข้างทางเป็นชุมชน หรือพื้นที่ที่มีแสงจากสภาพแวดล้อมค่อนข้างมาก
- Non Cut-Off
โคมไฟที่ไม่มีการควบคุมแนวส่องของลำแสง ทำให้แสงกระจายออกรอบทิศทาง ไม่เหมาะกับการติดตั้งบนทางหลวงเพราะจะทำให้เกิดมลภาวะทางแสงซึ่งรบกวนทัศนวิสัยของผู้ขับขี่ แต่จะนิยมใช้กับซอยหรือถนนขนาดเล็กที่ต้องการแสงสว่างในวงกว้าง
- ชนิดของต้นกำเนิดแสง (Typical Light Sources)
โดยหลอดไฟที่นิยมใช้งานตามที่ได้ระบุในมาตรฐานไฟถนนกรมทางหลวงปี 2554 มีดังนี้
- หลอดโซเดียมความดันไอสูง (High Pressure Sodium Lamp)
หลอดไฟที่มีค่าความสว่างค่อนข้างสูง อยู่ที่ประมาณ 70-130 ลูเมนต่อวัตต์ และมีความถูกต้องของสีอยู่ที่ 20% ซึ่งมากกว่าหลอดโซเดียมความดันไอต่ำ มีโทนสีที่เหมาะสมกับงานด้านความปลอดภัย นิยมใช้เป็นไฟถนนที่ไม่ใช่ย่านธุรกิจและไฟสวนสาธารณะ
- หลอดโซเดียมความดันไอต่ำ (Low Pressure Sodium Lamp)
หลอดไฟที่มีค่าความสว่างอยู่ที่ 120-200 ลูเมนต่อวัตต์ มีอายุการใช้งาน 8,000 – 24,000 ชม. จึงเหมาะกับการนำมาใช้เป็นไฟถนนเพราะแสงสีเหลืองเป็นสีที่มนุษย์มองเห็นได้ดีที่สุด แต่ในปัจจุบันไม่นิยมใช้งานเพราะมีสีที่เพี้ยนซึ่งส่งผลกับการมองเห็น
- หลอดปรอทความดันไอสูง (Mercury Vapor Lamp)
นิยมเรียกอีกชื่อนึ่งว่า “หลอดแสงจันทร์” เป็นหลอดไฟถนนที่มีความถูกต้องของสีค่อนข้างสูง มีความสว่างอยู่ที่ 50-80 ลูเมนต่อวัตต์ เหมาะสำหรับใช้ในโรงงานอุตสาหกรรมทั่วไป ไฟถนน ไฟสาธารณะ หรือบริเวณร้านค้าในพื้นที่ที่มีเพดานสูง
- หลอดเมทัลฮาไลด์ (Metal Halide Lamp)
หลอดไฟที่มีสเปกตรัมสีครบถ้วน และมีค่าความสว่างอยู่ที่ 60-120 ลูเมนต่อวัตต์ เหมาะกับการใช้งานที่เน้นความถูกต้องของสีเป็นหลัก เช่น งานพิมพ์สี สนามกีฬา ห้างสรรพสินค้า หรือโรงงานที่ต้องใช้ความแม่นยำในการทำงาน แต่มีข้อจำกัดคืออายุใช้งานที่น้อยกว่าหลอดไฟแบบอื่น ๆ
- หลอด LED (Light-Emitting Diode)
หลอดไฟ LED คือ หลอดไฟที่ให้แสงสว่างโดยอาศัยหลักการทำงานของไดโอดเปล่งแสง ค่าความสว่างจะขึ้นอยู่กับขนาดและกำลังไฟของหลอด ซึ่งข้อดีของการใช้เสาไฟถนน LED คือ ให้แสงสว่างที่สม่ำเสมอ และมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน ใช้พลังงานน้อยกว่าหลอดไฟแบบเดิม ๆ ถึง 80% สามารถช่วยลดค่าไฟฟ้าได้ในระยะยาว ไม่ก่อให้เกิดรังสีอัลตราไวโอเลต (UV) และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
ทำให้หลอดไฟ LED เป็นทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับการให้แสงสว่างในปัจจุบัน ด้วยข้อดีทั้งในด้านประสิทธิภาพ พลังงาน และความปลอดภัย การเลือกใช้หลอดไฟ LED ช่วยให้ประหยัดพลังงาน ลดค่าใช้จ่าย และยังเป็นการช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมอีกด้วย
มาตรฐานความสว่างไฟถนนกรมทางหลวง
เพื่อเพิ่มความปลอดภัยและให้แสงสว่างในแต่ละพื้นที่เหมาะสมกับการใช้งานจริง กรมทางหลวงจึงได้กำหนดมาตรฐานความสว่างไฟถนนกรมทางหลวงตามตารางด้านล่างนี้
ประเภทถนน | พื้นที่ในเมือง | พื้นที่ชานเมือง | พื้นที่นอกเมือง |
ทางหลวงพิเศษ | 21.5 lux | 15.0 lux | 10.75 lux |
ทางแยก | 21.5 lux | 21.5 lux | 15.0 lux |
ทางหลวงสายหลัก | 21.5 lux | 13.0 lux | 9.7 lux |
ทางหลวงสายรอง | 13.0 lux | 9.7 lux | 6.5 lux |
ถนนท้องถิ่น | 9.7 lux | 6.5 lux | 2.1 lux |
โดยจะเห็นว่าจุดที่ควรเน้นความสว่างเป็นพิเศษคือพื้นที่ทางแยกซึ่งมีโอกาสในการเกิดอุบัติเหตุสูงกว่าบริเวณอื่นหากมีมุมอับหรือแสงสว่างไม่เพียงพอ และทางหลวงพิเศษซึ่งผู้ขับขี่มักขับรถด้วยความเร็วสูงและอาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุได้
การติดตั้งไฟถนนตามมาตรฐานไฟถนนกรมทางหลวงถือเป็นเรื่องที่ทุกหน่วยงานควรให้ความสำคัญ เพื่อลดอุบัติเหตุและสร้างความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนนของผู้ขับขี่ นอกจากนี้ การเลือกใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าแสงสว่าง เช่น โคมไฟถนนและเสาไฟถนนที่ได้มาตรฐาน ผลิตด้วยวัสดุที่มีคุณภาพ และติดตั้งโดยผู้เชี่ยวชาญ จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของระบบแสงสว่างและลดค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาในระยะยาว
Winner Light ผู้ผลิตและจัดจำหน่าย พร้อมบริการติดตั้งเสาไฟถนน โคมไฟถนน เสาไฟถนนโซลาร์เซลล์ ที่ครองใจลูกค้ามาอย่างยาวนานกว่า 15 ปี ด้วยความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ ที่ตอบโจทย์ความต้องการด้านแสงสว่างได้อย่างครอบคลุม
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
เบอร์โทรศัพท์ : 02-415-7576-7, 081-880-6616
Website: www.winnerlight.co.th
Facebook: www.facebook.com/bangbonstation