ขนาดเสาไฟ และ ความสูงเสาไฟ เลือกอย่างไรให้ถูก

การขับขี่ในเวลากลางคืนต้องอาศัยแสงสว่างที่เพียงพอเพื่อเพิ่มทัศนวิสัยในการมองเห็น โคมไฟถนนจึงมีความสำคัญในการติดตั้งคู่กับเสาไฟ เพื่อให้แสงสว่างกระจายไปทั่วบริเวณได้อย่างเหมาะสม โดยความสูงและขนาดของเสาไฟถนนจะแตกต่างกันไปตามประเภทของถนนและสภาพแวดล้อม

ในบทความนี้เราจะพามาทำความรู้จักว่า เสาไฟฟ้ามีกี่ขนาด แต่ละขนาดเหมาะกับการติดตั้งบนถนนประเภทใดบ้าง และปัจจัยที่ควรพิจารณาก่อนการเลือกความสูงเสาไฟ เพื่อให้ได้เสาไฟที่ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด

เสาไฟฟ้ามีกี่ขนาด ขนาดเสาไฟฟ้ามาตรฐาน มีขนาดอะไรบ้าง?

โดยทั่วไปแล้วเสาไฟถนนที่นิยมใช้ตามมาตรฐานกรมทางหลวงจะมีขนาดต่ำสุดอยู่ที่ 3 เมตร และสูงสุดที่ 14 เมตร โดยแต่ละความสูงจะใช้งานในลักษณะที่แตกต่างกันออกไป ดังนี้

• เสาไฟฟ้าขนาด 3-5 เมตร

ใช้สำหรับถนนสายรอง ทางเข้าหมู่บ้าน ทางเท้า ตรอกและซอยที่รถสามารถวิ่งสวนกันได้

• เสาไฟฟ้าขนาด 6-8 เมตร

ใช้สำหรับถนนสายหลักที่มีรถวิ่งผ่านตลอดเวลา หรือทางหลวงขนาด 3 เลนที่มีการจราจรหนาแน่น

• เสาไฟฟ้าขนาด 9 เมตรขึ้นไป

ใช้สำหรับถนนมอเตอร์เวย์ โทลล์เวย์ หรือทางพิเศษที่รถวิ่งด้วยความเร็วสูง

ซึ่งหากเสาไฟฟ้ามีความสูงตั้งแต่ 15 เมตรขึ้นไปจะนับเป็นเสาสูงหรือเสา High Mast ซึ่งจะนิยมใช้งานในพื้นที่ที่มีความกว้างเป็นพิเศษ เช่น ลานจอดรถ สนามบิน สวนสาธารณะ หรือทางด่วนพิเศษ เป็นต้น

ปัจจัยหลักในการกำหนดความสูงเสาไฟถนน

การเลือกขนาดของเสาไฟถนนนั้นขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ เพื่อให้ได้แสงสว่างที่เหมาะสมและมีประสิทธิภาพสูงสุดในการใช้งาน ผู้ติดตั้งควรพิจารณาปัจจัยต่าง ๆ ดังต่อไปนี้

1. ประเภทถนน

ถนนแต่ละประเภทจะมีลักษณะการใช้งานที่แตกต่างกันออกไป ยิ่งถนนมีขนาดใหญ่และมีปริมาณรถมากเท่าใด ก็จะต้องใช้เสาไฟและโคมไฟที่มีขนาดใหญ่และให้แสงสว่างมากขึ้น เพื่อให้ผู้ใช้ทางได้ทัศนวิสัยที่ชัดเจนและปลอดภัย โดยสามารถแบ่งประเภทถนนตามการใช้งานได้ 3 กลุ่มใหญ่ ๆ ได้แก่

• ตรอกซอย

บริเวณตรอกซอยและทางเท้าที่ค่อนข้างแคบและมีปริมาณการจราจรน้อย มักนิยมใช้ขนาดเสาไฟฟ้ามาตรฐานอยู่ที่ 3-4 เมตร เพื่อให้ได้แสงสว่างที่เพียงพอสำหรับการสัญจรของคนเดินเท้าและรถจักรยานยนต์ และไม่จ้าจนเกินไปจนรบกวนผู้ที่อาศัยอยู่ใกล้เคียง

• ถนนสายรอง

ถนนสายรองที่เชื่อมต่อกับหมู่บ้านหรือพื้นที่อยู่อาศัยมักมีปริมาณรถสัญจรในระดับปานกลาง โดยเฉพาะรถขนาดเล็ก การเลือกใช้ขนาดของเสาไฟฟ้าถนนระหว่าง 4-5 เมตร จึงเป็นทางเลือกที่นิยม เนื่องจากให้แสงสว่างเพียงพอสำหรับการสัญจรในเวลากลางคืน

• ถนนสายหลัก

ถนนสายหลักมักเป็นเส้นทางหลักที่เชื่อมต่อระหว่างจังหวัดหรือพื้นที่ต่าง ๆ มีปริมาณรถยนต์และรถบรรทุกสัญจรหนาแน่น ส่งผลให้มีความกว้างและยาวเพื่อรองรับการจราจร ความสูงเสาไฟที่นิยมใช้ตามถนนสายหลักจึงอยู่ที่ประมาณ 6-7 เมตร เพื่อให้แสงสว่างเพียงพอและทั่วถึงแก่ผู้ใช้รถใช้ถนน

2. ความกว้างของถนน

นอกจากเรื่องของประเภทถนนแล้ว ถนนประเภทเดียวกันที่มีปริมาณช่องทางจราจรที่แตกต่างกัน ก็ส่งผลต่อการเลือกใช้จำนวนและขนาดเสาไฟตามไปด้วย เนื่องจากความกว้างของถนนจะมีมากขึ้น และทำให้อาจเกิดจุดอับแสงได้มากขึ้น โดยถนนแต่ละขนาดควรเลือกความสูงเสาไฟให้เหมาะสม ดังนี้

• 2 ช่องทางจราจร

สำหรับถนน 2 เลน ซึ่งมักเป็นถนนสายรองที่มีความกว้างจำกัด การใช้เสาไฟถนนสูง 4-5 เมตร ถือเป็นตัวเลือกที่เหมาะสม เนื่องจากสามารถให้แสงสว่างที่เพียงพอสำหรับการสัญจร และยังช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการติดตั้งอีกด้วย

• 3 ช่องทางจราจร

ถนน 3 เลน ส่วนใหญ่มักพบในทางหลวงหรือถนนในเมืองที่มีการจราจรค่อนข้างหนาแน่น โดยทั่วไปแล้ว เสาไฟสำหรับถนน 3 เลน ควรมีความสูงประมาณ 7-9 เมตร เพื่อให้แสงสว่างกระจายทั่วถึงและไม่เกิดจุดอับแสง

• 4 ช่องทางจราจร

ถนน 4 เลน บนทางด่วนหรือทางพิเศษ ซึ่งมักมีรถวิ่งด้วยความเร็วสูง จำเป็นต้องใช้เสาไฟที่มีความสูงตั้งแต่ 9 เมตรขึ้นไป เพื่อให้แสงสว่างครอบคลุมพื้นที่ได้กว้างและสม่ำเสมอ รองรับการมองเห็นของผู้ขับขี่ในระยะไกล

3. ประเภทของโคมไฟ

โคมไฟถนนถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับการเลือกขนาดเสาไฟฟ้ามาตรฐานที่เหมาะสม เพราะโคมไฟที่มีค่าลูเมนสูง และองศาการกระจายแสงกว้าง จะเหมาะกับการติดตั้งบนเสาไฟที่มีความสูงเพื่อให้แสงตกกระทบพื้นอย่างเหมาะสมโดยไม่เกิดแสงสะท้อน โดยโคมไฟแต่ละประเภทจะมีลักษณะที่ต่างกัน ดังนี้

• โคมไฟ LED

โคมไฟ LED เป็นโคมไฟถนนที่มีความสว่างสูงและกินไฟน้อยเมื่อเทียบกับโคมไฟประเภทอื่น และสามารถออกแบบให้มีมุมกระจายแสงได้หลากหลาย ทำให้สามารถเลือกใช้เสาไฟที่มีความสูงน้อยลงได้โดยยังคงให้แสงสว่างเพียงพอ ปัจจุบันโคมไฟ LED จึงเป็นที่นิยมในการใช้งานมากที่สุดเพราะช่วยให้ประหยัดต้นทุนการติดตั้งได้มากกว่าและมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน ไม่ต้องซ่อมหรือเปลี่ยนหลอดไฟบ่อย ๆ

• โคมไฟโซเดียม

โคมไฟโซเดียม จะมีลักษณะแสงโทนสีเหลืองส้ม ให้แสงที่สบายและนวลตากว่าเมื่อใช้ในเวลากลางคืน อีกทั้งยังมีองศาการกระจายแสงที่กว้าง ทำให้สามารถติดตั้งเสาไฟในระยะห่างที่มากขึ้นได้ เหมาะกับพื้นที่ทางหลวงที่ถนนมีจำนวนเลนมาก และมีความกว้าง แต่เพื่อให้ได้แสงสว่างที่เพียงพอ อาจต้องใช้เสาไฟที่มีความสูงพอสมควรเพื่อไม่ให้เกิดจุดอับแสง

• โคมไฟเมทัลฮาไลด์

โคมไฟเมทัลฮาไลด์ จะให้แสงสีขาวนวล สว่างจ้า เหมาะสำหรับการใช้งานในพื้นที่ที่ต้องการแสงสว่างมาก และสามารถเลือกใช้เสาไฟที่มีความสูงน้อยลงได้ แต่มีข้อจำกัดคือ แสงจากหลอดจะกระจายตัวในมุมกว้างถึง 320 องศา ทำให้เกิดการสูญเสียแสงสว่างระหว่างทางไปยังเป้าหมาย ส่งผลให้ประสิทธิภาพในการใช้แสงไม่สูงนัก

นอกจากปัจจัยที่ไปข้างต้นแล้ว การเลือกติดตั้งเสาไฟถนนยังต้องคำนึงถึงสภาพแวดล้อมโดยรอบ เช่น ต้นไม้ สิ่งปลูกสร้าง และปริมาณการจราจรในช่วงกลางคืน เพื่อให้สามารถเลือกขนาดของเสาไฟฟ้าที่เหมาะสมกับความต้องการใช้งานได้อย่างแม่นยำ การกำหนดระยะห่างระหว่างเสาแต่ละต้นก็เป็นอีกปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพในการให้แสงสว่าง

ดังนั้น เพื่อให้ได้ระบบแสงสว่างที่เหมาะสมและคุ้มค่า ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านอุปกรณ์ให้แสงสว่าง เพื่อขอคำแนะนำเกี่ยวกับขนาดของเสาไฟ ประเภทของโคมไฟ และหลอดไฟที่เหมาะสมกับพื้นที่ของคุณ ช่วยประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายในการติดตั้งใหม่ในอนาคต นอกจากนี้ การเลือกซื้อสินค้าจากผู้จำหน่ายที่น่าเชื่อถือจะช่วยให้คุณมั่นใจได้ว่าจะได้รับผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ ได้มาตรฐาน และมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน ประหยัดค่าซ่อมบำรุงและดูแลในระยะยาว

Winner Light ผู้ผลิตและจัดจำหน่าย พร้อมบริการติดตั้งเสาไฟถนน โคมไฟถนน เสาไฟถนนโซลาร์เซลล์ ที่ครองใจลูกค้ามาอย่างยาวนานกว่า 15 ปี ด้วยความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ ที่ตอบโจทย์ความต้องการด้านแสงสว่างได้อย่างครอบคลุม

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่

เบอร์โทรศัพท์ : 02-415-7576-7, 081-880-6616
Facebook: www.facebook.com/bangbonstation