แสงสว่างเป็นสิ่งจำเป็นต่อการดำรงชีวิตของมนุษย์ ช่วยให้เราสามารถมองเห็นสิ่งต่าง ๆ ได้อย่างชัดเจน แต่แสงสว่างที่เหมาะสมสำหรับแต่ละพื้นที่นั้นแตกต่างกันไป การเลือกแหล่งกำเนิดแสงที่มีมุมกระจายแสง (Beam Angle) ที่เหมาะสม จะช่วยให้เราได้รับแสงสว่างเพียงพอ โดยไม่จำเป็นต้องใช้โคมไฟจำนวนมาก ซึ่งส่งผลให้ประหยัดพลังงานและเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งาน ในบทความนี้เราจะมาทำความรู้จักว่า Beam Angle คืออะไร สำคัญต่อการเลือกโคมไฟหรือหลอดไฟอย่างไร รวมถึงค่า Beam Angle ที่แนะนำสำหรับการใช้งานเพื่อจุดประสงค์ต่าง ๆ
Beam Angle คืออะไร?
มุมองศาของแสง หรือ Beam Angle คือ ค่าที่บอกถึงความกว้างของแสงที่กระจายออกจากแหล่งกำเนิดแสง เช่น เปลวไฟ โคมไฟ หรือไฟฉาย โดยวัดเป็นหน่วยองศา ยิ่งมุมองศาของแสงมีค่ามาก แสงก็จะกระจายออกไปกว้างมากขึ้น
ความสำคัญของ Beam Angle
Beam Angle คือค่าที่บ่งบอกถึงการกระจายแสงของหลอดไฟ การเลือกมุมกระจายแสงที่เหมาะสมจะช่วยให้การใช้งานโคมไฟมีประสิทธิภาพมากขึ้น ตัวอย่างเช่น ไฟองศาแคบ จะให้ลำแสงที่เข้มเพื่อเน้นสว่างให้กับจุดใดจุดหนึ่งภายในห้อง ส่วนไฟองศากว้างจะกระจายแสงเป็นวงกว้าง เหมาะสำหรับการให้แสงสว่างทั่วถึงภายในห้อง นอกจากนี้ การเลือก Beam Angle ที่เหมาะสมจะช่วยให้เราใช้แสงสว่างได้อย่างคุ้มค่า สามารถติดตั้งโคมไฟได้ในปริมาณที่เหมาะสม ไม่มากเกินไป และไม่สิ้นเปลืองพลังงานโดยใช่เหตุ
Beam Angle หรือการกระจายแสงของโคมไฟแบบต่าง ๆ
Beam Angle มักวัดเป็น องศา (Degree) โดยวัดจากจุดศูนย์กลางของแหล่งกำเนิดแสงถึงจุดที่ความเข้มแสงลดลงถึง 50% ของความเข้มแสงสูงสุด มักแบ่งเป็นช่วง ๆ เช่น
- Beam Angle แบบแคบ: 5-30 องศา
มุมที่มีความเข้มแสงสูง เหมาะกับการใช้เป็นสปอตไลต์หรือไฟส่องเน้นวัตถุ (Accent Lighting) เช่น รูปภาพบนผนัง ประติมากรรม ของตกแต่ง เป็นต้น หากเลือกที่องศาแคบมาก ตั้งแต่ 5-15 ก็จะยิ่งมีความเข้มแสงมากขึ้น หากต้องการเลือกไฟที่ดูสบายตา ไม่เป็นลำเส้นมากเกินไป ควรเลือกมุมที่กว้างตั้งแต่ 20 องศาขึ้นไป
- Beam Angle แบบปานกลาง: 30-60 องศา
มุมแสงที่เหมาะสำหรับการทำงาน หรือกิจกรรมเฉพาะเจาะจง มีการกระจายตัวไม่กว้างมาก หรือที่รู้จักกันในชื่อของ Task Lighting มักใช้กับโคมไฟอ่านหนังสือ โคมระย้าบนโต๊ะอาหาร ซึ่งแสงประเภทนี้จะมีความเข้มข้นพอที่จะส่องสว่างในพื้นที่ที่ต้องการได้ดี แต่ไม่จ้าเกินไป ช่วยลดความเมื่อยล้าของดวงตา
- Beam Angle แบบกว้าง: 60-120 องศา
รูปแบบการกระจายแสงของหลอดไฟที่นิยมใช้งานมากที่สุด เนื่องจากมีมุมแสงที่กว้างพอเหมาะ ช่วยให้แสงสว่างกระจายทั่วถึงในพื้นที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เหมาะสำหรับการใช้งานในพื้นที่พักอาศัย เช่น ห้องนอน ห้องทำงาน และห้องนั่งเล่น ซึ่งต้องการแสงสว่างสบายตาเพื่อการดำเนินชีวิตประจำวัน
- Beam Angle แบบกว้างมาก: 120 องศาขึ้นไป
มุมแสงแบบนี้จะมีความกว้างมาก สามารถให้แสงสว่างได้ครอบคลุมพื้นที่อย่างทั่วถึง มักพบในงานอุตสาหกรรมที่ต้องการส่องสว่างพื้นที่ขนาดใหญ่ เช่น โกดังสินค้า โรงงาน หรือพื้นที่กลางแจ้งอย่างถนนและสวนสาธารณะ เป็นต้น และนิยมติดตั้งบนเพดานสูงเพื่อให้กระจายแสงได้ทั่วถึง
ตารางสรุปลักษณะการใช้งานของ Beam Angle แต่ละแบบ
ช่วง Beam Angle (องศา) | ลักษณะการกระจายแสง | เหมาะสำหรับ |
---|---|---|
5-30 | เข้มข้น, เน้นจุด | สปอตไลท์, ไฟส่องเน้นวัตถุ |
30-60 | กระจายตัวไม่กว้างมาก | โคมไฟอ่านหนังสือ, โคมระย้าบนโต๊ะอาหาร |
60-120 | กระจายทั่วถึง | ห้องนอน, ห้องทำงาน, ห้องนั่งเล่น |
120 ขึ้นไป | กระจายครอบคลุมพื้นที่กว้าง | โกดัง, โรงงาน, ถนน, สวนสาธารณะ |
การเลือกโคมไฟที่มีค่า Beam Angle เหมาะสม ไม่เพียงแต่ช่วยให้การใช้พลังงานมีประสิทธิภาพมากขึ้นเท่านั้น แต่ยังส่งเสริมความปลอดภัยให้กับผู้ใช้งานในพื้นที่สาธารณะ อาทิ โรงงานอุตสาหกรรม สวนสาธารณะ และถนนหนทางที่มีผู้คนสัญจรไปมาอย่างต่อเนื่อง
ซึ่งนอกจากฟังก์ชันการใช้งานแล้ว การเลือกโคมไฟถนนที่มี Beam Angle การกระจายแสงของโคมไฟเหมาะสม ยังมีส่วนสำคัญในการสร้างบรรยากาศและความสวยงามให้กับพื้นที่ ช่วยเน้นสถาปัตยกรรมของอาคาร สวนสาธารณะ ทำให้เกิดภาพลักษณ์ที่น่าประทับใจ
เพื่อให้ได้อุปกรณ์ส่องสว่างที่มีคุณภาพสูง อายุการใช้งานยาวนาน และลดภาระในการบำรุงรักษา ผู้ใช้งานจึงควรเลือกซื้อโคมไฟและอุปกรณ์ติดตั้งจากผู้จัดจำหน่ายที่ได้มาตรฐาน และปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านแสงสว่างก่อนตัดสินใจติดตั้ง
Winner Light ผู้ผลิตและจัดจำหน่าย พร้อมบริการติดตั้งเสาไฟถนน โคมไฟถนน เสาไฟถนนโซลาร์เซลล์ ที่ครองใจลูกค้ามาอย่างยาวนานกว่า 15 ปี ด้วยความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ ที่ตอบโจทย์ความต้องการด้านแสงสว่างได้อย่างครอบคลุม
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
เบอร์โทรศัพท์ : 02-415-7576-7, 081-880-6616
Website: www.winnerlight.co.th
Facebook: www.facebook.com/bangbonstation